สำหรับรถที่ยังติดไฟแนนซ์ยังผ่อนไม่หมด เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราเป็นเพียงเจ้าของรถแต่ เจ้าของที่แท้จริงก็คือไฟแนนซ์ การเอารถแบบนี้ไปจำนำซึ่งต้องจอดรถ นั่นก็เป็น เราได้ทำผิดกฏหมายคดีกินนอกกินในทรัพย์ไปแล้ว เมื่อเราเริ่มลงมือทำสิ่งผิดกฏหมาย ความเลวร้ายในโลกมืดก็จะเริ่มตามเรามา ศูนย์รับจำนำรถซึ่งอาจจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือเต็นท์รถ หรือศูนย์รับจำนำรถที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเอารถเราไปขายต่อ หรือจำนำต่อ หรืออันตรธาน เราก็จะทำอะไรเค้าไม่ได้ การเป็นความทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นความเป็นเจ้าของรถ แต่ไฟแนนซ์เป็นเจ้าของรถที่แท้จริง

หากเราผิดนัดผ่อนค่าจำนำกับเต็นท์รับจำนำ เค้าอาจจะเอารถเราไปจำนำต่อ เพราะคนจำนำบางคนก็แสบ ไม่จ่ายจะทำไม ทางเต็นท์หรือศูนย์รับจำนำรถก็อาจจะขายต่อไปเลย หรือขายแบบหลุดจำนำ ฯลฯ ปัญหาก็จะเริ่มเข้าหาเราล่ะ รถไม่มีแล้ว ไปอยู่ประเทศอื่นแล้ว หรือตามหาไม่เจอแล้ว แต่เรายังต้องผ่อนไฟแนนซ์อยู่ จ่ายไปเปล่าๆ นี่แหละ ไม่จ่ายไฟแนนซ์ก็ฟ้องเราและคน ค้ำประกัน เค้าไม่ไปยุ่งกับคนรับจำนำ เพราะไม่เกี่ยวกัน ไม่คุ้มครับ ถ้าชีวิตมันมาถึงทางตันขนาดนี้ ตัดใจครับ กัดฟันปล่อยไปเลย อย่ายุ่งกะมัน  หากจำเป็นต้องทำจริงๆ แนะให้หาเงินก้อนมาปิดไฟแนนซ์แล้วเอาไปจำนำจอดครับ เพราะไหนๆ ก็ต้องจอดอยู่แล้ว แต่การจำนำจอดดอกจะถูกกว่า เพราะมีแค่ค่าจอดกับค่าดอก และเคลียตัวปัญหาง่ายกว่ามาก โดยเฉพาะหากไฟแนนซ์มีบริการรับจำนำรถจอดด้วย ผมใช้บริการที่ซี้ตี้ลิสซิ่งซึ่งมีศูนย์ในเครืออย่างออโต้คอนเนอร์ ก็จะสามารถไปปิดไฟแนนซ์ รอรับเล่ม แล้วก็ขับรถเข้าศูนย์ทำสัญญา รับเช็คเอาเช็คไปขึ้นเงิน

อีกลู่ทางแทนการรับจำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์   การรีไฟแนนซ์กรณีที่รถนั้นยังติดไฟแนนซ์เดิมอยู่ก็สามารถทำได้ โดยผู้ให้บริการบางรายจะมีบริการปิดไฟแนนซ์แล้วจัดไฟแนนซ์ให้เราใหม่ แต่ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเพิ่มขึ้นไปอีก กู้ 100000 อาจจะต้องจ่ายเพิ่มรวมๆ แล้วก็ 180,000 ขึ้นไป หากเจอตัวปัญหาหนักขนาดนี้ ตัดใจขายรถไปเลยดีกว่า เช่น ไปลงประกาศขายที่   ที่นี่แม้จะเป็นรถติดไฟแนนซ์ก็ไม่มีปัญหา เพราะทางเว็บไซต์มีให้บริการปิดไฟแนนซ์ให้ และคนซื้อหากเอกสารพร้อม วันเดียวก็กระทำจบ ได้รถกลับบ้านทันท่วงที