ความสะดวกสบายในการใช้งานและคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรคของเจลล้างมือที่มักพบเห็นในโฆษณาทำให้คนนิยมใช้อย่างแพร่หลาย บางคนใช้จนกลายเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน แท้จริงแล้วเจลล้างมือที่ใช้กันอยู่เป็นประจำมีความจำเป็นหรือใช้ทดแทนการล้างมือได้มากน้อยแค่ไหน
การล้างมือโดยเจลแอลกอฮอล์ และการใช้เจลล้างมือมีความสำคัญทั้งคู่ โดยการล้างมือจัดเป็นวิธีทำความสะอาดหลักที่ควรใช้เป็นวิธีแรก และการใช้เจลล้างมือเป็นเสมือนวิธีเสริมในบางสถานการณ์ที่ไม่สะดวกจะใช้น้ำและสบู่ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการขจัดเชื้อโรคและความปลอดภัยของส่วนผสมในเจลล้างมือยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในหลายด้าน ซึ่งในทางการแพทย์ยังแนะนำว่า เจลล้างมืออาจเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในกรณีที่ไม่สะดวกในการล้างมือด้วยน้ำ แต่ยังไม่สามารถทดแทนการล้างมือได้
เจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ระหว่าง 60-95% ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคได้มากกว่าสูตรที่มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่าหรือไม่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่เลย ขณะที่เจลล้างมือสูตรไม่มีแอลกอฮอล์ไม่สามารถป้องกันหรือยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด และอาจทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นดื้อต่อสารทำความสะอาดในเจลล้างมือมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนังมากกว่าสูตรผสมแอลกอฮอล์ เจลล้างมือส่วนใหญ่จึงมักใช้แอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบสำคัญ
ข้อดีและข้อควรระวังของการใช้เจลล้างมือ
สะดวกสบายในการล้างมือโดยไม่ต้องใช้น้ำ พกพาได้ง่าย หยิบใช้ได้สะดวกตามต้องการ เนื่องจากเจลล้างมือถูกผลิตออกมาหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน
ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาต่อครั้งเพียง 20- 30 วินาที ซึ่งน้อยกว่าการล้างมือแบบปกติ และมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน
ป้องกันการแห้งกร้านของผิวหน้ง เนื่องจากมักมีสารให้ความชุ่มชื่นและอาจก่อให้เกิดการระเคืองน้อยกว่าการใช้สบู่และน้ำ
ประสิทธิภาพในการปกป้องและยับยั้งเชื้อโรคดีกว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป