ได้รูปแบบห้องครัวและสไตล์ที่ต้องการแล้ว ถึงเวลาลงรายละเอียดที่หลายคนรอคอย รายละเอีบดที่ว่านั้นก็คืออุปกรณ์ ของใช้และเครื่องครัวส่วนต่างๆในห้องครัวนั่นเอง แต่สิ่งแรกที่เราจะไม่พูดถึงคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก เตาไฟ
เตาทำอาหาร
เตาทำอาหารนั้นเราสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆได้ตามแหล่งกำเนิดความร้อนสำหรับเตานั้นๆ ได้แก่แก๊สและไฟฟ้า แต่ประเภทก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออก คุณสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับประเภทของอาหารและงบประมาณได้โดยในส่วนของเตาไฟฟ้านั้นจะมีประเภทการทำความร้อนที่ต่างออกไปอีก เราลองไปดูรายละเอียดของเตาแต่ละประเภทกันดีกว่า
เตาแก๊ส
เตาสามัญประจำบ้านที่มีอยู่ทุกครัวเรือน เป็นเตาประเภทสามัญที่คนไทยรู้จักและใช้กันมานาน เหมาะกับการทำอาหารที่ทุกบ้านคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะไฟแรง ใช้ทำกับข้าวที่ต้องใช้ความร้อนสูงและให้ความร้อนเป็นเวลานานทั้งการต้ม ผัดหรือทอด อีกทั้งเป็นเตาที่ติดตั้งได้สะดวก แค่เพียงจัดหาถังแก๊สและหัวเตาตามจำนวนที่คุณต้องการก็สามารถติดตั้งและทำอาหารได้เลย แต่ด้วยความที่รูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันของคนไทยนั้นเปลี่ยนแปลงมาก การอยู่อาศัยในคอนโดหรือตึกสูงสมัยใหม่ เกือบทั้งหมดทำให้ไม่สามารถติดตั้งเตาแก๊สได้ เตาแก๊สจึงเป็นเตาที่เหมาะกับบ้านเดี่ยว บ้านจัดสรรในหมู่บ้านหรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ไม่ใช่ตึกสูง แต่ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในหน่วยอาศัยลักษณะใด การดูแลเรื่องความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเหตุที่แก๊สนั้นมีความไวไฟสูง หากใช้งานไม่ระวังก็อาจทำเกิดอุบัติเหตุจนก่อให้เกิดอัคคีภัยได้ ควรเลือกใช้ถังหรือระบบนำจ่ายแก๊สที่มีความปลอดภัย ไม่มีการรั่วซึมได้ง่าย เป็นระบบที่ตรวจสอบได้เสมอ เตาแก๊สนั้นยังมีข้อดีในเรื่องของราคาที่ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับเตาไฟฟ้าโดยเฉลี่ย คุณสามารถหาซื้อระบบหัวแก๊สได้ตั้งแต่ราคาหลัก 1,000 บาทสำหรับเตาแก๊สหัวเดี่ยวจนถึงหลัก 10,000 บาทสำหรับเตาแก๊สแบบสี่หัว ไม่ว่าจะเป็นเตาแบบตั้งหรือเตาแบบฝังเคาน์เตอร์ ซึ่งราคาก็จะผันตามจำนวนหัวจ่าย วัสดุฐานเตา รวมทั้งยี่ห้อของเตาได้โดยง่าย และเมื่อเทียบกับค่าแก๊สแล้ว เตาแก๊สจะไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟ เหมือนเตาไฟฟ้าอีกด้วย
เตาไฟฟ้า
เตาไฟฟ้านั้นถือว่าเป็นของใหม่สำหรับครัวคนไทย แต่ก็มีใช้กันแพร่หลายตามสภาพความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป เหมาะกับบ้านอพาร์ทเมนต์หรือคอนโดมีเนียมหรือหอพักนักศึกษาที่ไม่อนุญาตให้ใช้แก๊ส เตาไฟฟ้านั้นที่เราสามารถพบเห็นได้อยู่บ่อยสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภท แต่ละประเภทมีรายละเอียดและข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปดังนี้
เตาไฟฟ้าแบบขดลวด
เตาไฟฟ้าลักษณะนี้เป็นเตาไฟฟ้ารุ่นแรกๆที่มีการพัฒนาเตาไฟฟ้าขึ้นมา วิธีการทำงานของเตาชนิดนี้คือการใช้พลังไฟฟ้าส่งผ่านขดลวดใต้แผ่นสีดำแล้วส่งผ่านความร้อนนั้นไปที่ภาชนะอีกครั้ง เตาไฟฟ้าลักษณะนี้มีข้อดีที่ราคาถูก ใช้กับอุปกรณ์การทำอาหารแบบใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบแม่เหล็ก แต่เตาไฟฟ้าก็เต็มไปด้วยข้อเสียมากมาย ตั้งแต่การให้ความร้อนที่ใช้เวลานาน กินไฟมากกว่าเตาไฟฟ้าประเภทอื่น และไม่เหมาะกับการทำอาหารไทยหรือจีนที่ต้องใช้ความร้อนสูง
เตาไฟฟ้าแบบแม่เหล็ก
เตาประเภทนี้หลักการทำงานจะไม่ต่างกับเตาไฟฟ้าแบบแรก แต่จะเป็นขดลวดแบบสนามแม่เหล็กทำให้เกิดความร้อนโดยตรงที่ภาชนะ ภาพรวมแล้วการใช้ไฟจะประหยัดมากกว่าเตาไฟฟ้าแบบแรก แต่ภาชนะที่จะนำมาใช้ต้องเป็นภาชนะที่ใช้ได้กับเตาประเภทนี้เท่านั้น โดยที่ฉลากของภาชนะจะมีบอกอยู่เสมอว่าภาชนะใช้กับเตาประเภทใดได้ เตาไฟฟ้าแม่เหล็กแบบนี้จะประหยัดไฟกว่าแบบแรก แต่ก็มีราคาสูงมากกว่าเตาแบบขดลวดมาก ส่วนใหญ่เตาไฟฟ้าแม่เหล็กที่มีคุณภาพจะมีราคาตั้งแต่หลักหลาย 10,000 ขึ้นไป